TRENDS แนวโน้มการตลาดแห่งอนาคต
Uploaded on authorSTREAM by nacha Upload your own presentation
คุณเคยสงสัยบ้างไหมว่า? ทำไมผู้คนส่วนมาก เมื่อเอ่ยถึงธุรกิจเครือข่าย ขายตรง มักเบือนหน้าหนี?
นั้นเพราะว่า โดยธรรมชาติของมนุษย์นั้น... "เมื่อไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับบางสิ่งแล้ว มักจะแสดงถึงความไม่ประสีปะสาโดย พยายามใช้ไหวพริบเชาว์ปัญญา ของตนอธิบายในสิ่งที่ตนเองไม่ได้เข้าใจจริงๆ"...
คุณก็คงเป็นเช่นเดียวกัน คุณต้องการมีชีวิตที่อิสระ ซึ่งผมเป็นคนหนึ่ง ที่เคยมองหาใครสักคน ที่จะสามารถ แนะนำผมให้สามารถเดินมาถึงจุดนี้ได้ ซึ่ง ณ.วันนี้ เราได้มาพบกัน
เลือกหรือตัดสินใจถูก สำเร็จแล้วกว่า 90%
คุณเพียงสร้างเครือข่าย โดย เเนะนำโอกาสอันนี้ เเล้ว ให้คนอื่นทำงานแทนคุณ....ขายแทนคุณ”
คำพูดนี้ จะใช้ได้แน่ถ้า คุณเป็นเจ้าของกิจการร้านค้า ดีพาท์เมนต์สโตร์ และมีลูกจ้างมากมาย แต่ไม่สามารถใช้ได้ในกรณีนี้ ....ถ้าคุณต้องการจะช่วยนักธุรกิจอิสระ ผู้ที่เป็นเสมือนหุ้นส่วนธุรกิจที่ต้องทำงานร่วมกันและโตไปพร้อมๆกัน
ความจริงก็คือว่า คุณผู้ เป็นเสมือนเจ้าของบริษัทธุรกิจเครือข่ายจะต้องดูแลสมาชิกให้เหมือนกับเป็นแฟร์นไชส์ ไม่ใช่เป็นแบบร้านค้าปลีกทั่วไป เจ้าของกิจการร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม มีเพียงสองทาง ในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโต คือ เพิ่มยอดขายโดยเพิ่มปริมาณลูกค้า และเมื่อ ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง ก็ ทำการ ขยายสาขาแฟร์นไชนส์ ที่ประสบความสำเร็จนั้น ทำเงินจาก ค่าธรรมเนียม จากนักธุรกิจ ในการเรียนรู้ระบบงานของพวกเขา(franchise fee) และทำเงินจากการแบ่งเปอร์เซ็นต์ยอดขาย ของแต่ละแฟร์นไชนส์ ซี (franchisee)
ธุรกิจแฟร์นไชนส์ เติบโตจากการขยายสาขา ไม่ใช่การขยายพื้นที่ขยายส่วนร้านเดิม ดังนั้นธุรกิจเครือข่ายจะต้องดำเนินงานเหมือนกับ ธุรกิจแฟร์นไชนส์ ไม่ใช่เป็นแบบร้านค้าปลีก
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ธุรกิจแฟร์นไชนส์ โฟกัสที่ การเพิ่มของ ร้านค้าทำเลใหม่(หาผู้ที่มีความพร้อมจะทำ และช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับระบบวิธีการของการเริ่มต้นกิจการ) แทนที่จะมุ่งแต่หาเพิ่มจำนวนลูกค้าให้เข้ามาในธุรกิจเดียว นักธุรกิจหน้าใหม่มักจะ มุ่งทำการขายสินค้าให้แก่ใครๆทุกคนยกเว้นตัวพวกเขาเอง
“ถามว่ามีความจำเป็นไหมที่จะต้องทำการ กักตุน สินค้าในปริมาณมาก?”
ในปัจจุบันนี้ โดยแท้จริงแล้ว แทบไม่มีความจำเป็นเลยที่สมาชิกจะต้องทำการ สต็อกสินค้า บริษัทธุรกิจเครือข่ายที่ได้รับมาตรฐาน นั้นในหลายบริษัท ให้ความสำคัญ ในด้านการบริการ ซึ่งสามารถทำการสั่งสินค้าได้ทาง internet โทรศัพท์ และการส่งสินค้าจากบริษัทไปยังลูกค้าโดยตรง ดังนั้นถ้าคุณเจอผู้แนะนำคนใดพยายาม ให้คุณซื้อสินค้าในจำนวนมาก หรือ ทำการซื้อตำแหน่ง พยายามหลีกเลี่ยงจากพวกเขาเหล่านั้น เสียเถอะ
“มีความจำเป็นมากไหมที่จะต้องติดต่อแนะนำค้าขายให้แก่ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง?”
ในความเป็นจริงแล้ว คุณไม่จำเป็นต้อง พยามชักชวนหรือพยามขายสินค้า ให้แก่ญาติพี่น้องของคุณก็ได้ เพราะคุณคือเจ้าของธุรกิจ ทำไม? เพราะว่า……..
1.ถ้าคุณรู้ว่า ญาติพี่น้องหรือเพื่อนของคุณ หรือแม้แต่คนข้างบ้านคุณมีความต้องการ ในสินค้าหนึ่ง ซึ่งคุณมีขายอยู่ คุณว่าคุณควรจะบอกกับเขาไหมล่ะ? และถ้ามองในแง่ธุรกิจ ซึ่งคุณสามารถช่วยใครสักคนผู้ที่ต้องการจะหารายได้พิเศษ หรือ ใครสักคนที่ต้อการเป็นอิสระจากชีวิตรับจ้างของเขา หรือเบื่อหน่ายจากสถานะการณ์งานที่เลวร้ายของเขา? ถ้าคุณรู้คุณจะบอกเเละให้ความรู้ทางเลือกกับเขาไหมล่ะ?
2. ในการเปิดธุรกิจห้างร้านใหม่ๆ ทำไมพวกเขาเหล่านั้นทำการจัดพิธีเปิด หรือ ทำบุญร้าน เพราะว่าพวกเขาต้องการประชาสัมพันธ์ให้คนรู้เกี่ยวกับ ธุรกิจที่พวกเขาทำอยู่ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ความรู้สึกเเย่ๆที่เกิดขึ้นหลายคนมักรู้สึกอึดอัดใจ หลังจากถูกปฏิเสธจากเพื่อนๆหรือสมาชิกในครอบครัว ทำไมถึงรู้สึกอย่างนั้น เราต่างทราบกันดีว่า ผู้คนมักเกลียดที่จะได้ยินการถูกปฏิเสธ แต่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ แตกต่างกัน ตรงที่ การที่รู้จัก ฟัง คำปฏิเสธ กับไม่รู้จักฟัง คำปฏิเสธ “ไม่” “ไม่เอา”, “ไม่สนใจ”
คุณอย่าได้รู้สึกอย่างนั้นเลย คุณต้องเข้าใจถึงธรรมชาติของมนุษย์ ที่มักคิดถึงตัวเองก่อน คิดถึงสิ่งที่ได้ยินนั่นเเล้วหมายมั่นว่าเป็นตัวของพวกเขาเอง ดังนั้นถ้าเมื่อใดคุณต้องการบอกเล่าความน่าตื่นเต้นของธุรกิจของคุณกับใครก็ตาม แต่พวกเขาไม่สนใจและปฏิเสธคุณ คุณต้องรู้จักฟัง เมื่อคุณสุภาพกับเขา หมายความว่า พวกเขาไม่ได้ปฏิเสธตัวคุณ ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่ชอบคุณ เพียงแต่พวกเขายังไม่ต้องการ สิ่งที่คุณเสนอเขา และเมื่อวันเวลาเปลี่ยนไป สถานการณ์ทั้งหลายเปลี่ยนแปลง คุณอาจจะเป็นคนที่พวกเขา มองหาคุณเองก็เป็นได้
ถ้าคุณมองหาหนทางการแก้ปัญหาที่สั่งสมของการทำธุรกิจเครือข่ายนี้
คุณลองถามตัวคุณด้วยคำถามง่ายๆธรรมดาๆ?คุณจะมาเป็นผู้สอนผู้แนะนำอย่างไร? อะไรเป็นเครื่องประเมินว่าธุรกิจใหม่ของคุณนี้สามารถสร้างรายได้ให้คุณจริงต่อไปในระยะยาว?
คำถามต่างๆต่อไปนี้ คุณลองถามตัวคุณเอง และ ถามผู้ที่คอยชักชวนคุณเข้าร่วมธุรกิจเครือข่าย: ถามว่า……ธุรกิจนี้มีความมั่นคงยั้งยืนนานแค่ไหน?
คุณสมมุติว่าตัวคุณเป็นนักลงทุน ….กับคำถามธรรมดาๆ ….ประวัติธุรกิจเป็นอย่างไร? ปันผลงามไหม?(แผนรายได้) เปิดตัวมานานเท่าไหร่? ปัญหาข้อกฎหมายมีไหม? บริษัทมีเสถียร์ภาพมากน้อยแค่ไหนถ้าต้องพบปัญหาจากปัจจัยภายนอก (ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจ, เงินเฟ้อ, ………)
ถ้าคุณเข้ากำลังเข้าร่วมกับบริษัทที่มีแผนจ่ายค่าตอบแทนในอนาคตถ้าคุณสามารถทำได้ถึงจุดหนึ่ง สวัสดิการณ์ต่างๆ มรดก ต้องแน่ใจว่า บริษัทมีโครงสร้างที่มั่นคง และมี เสเถียรภาพทางการเงินที่สามารถให้คุณได้ในภายหน้าเมื่อคุณต้องการ
คุณลองตั้งคำถามว่า?.......
มีสินค้าและบริการที่ดีไหม? ความต้องการของตลาดมีความยั่งยืนมากน้อยแค่ไหน? สัญญารับประกันเปลี่ยนคืนสินค้าเป็นอย่างไร? บริษัทมีการปรับการ re-stock สินค้าหรือไม่ กรณีคุณเลิกกิจการ และต้องการขอเงินคืน ต้องแน่ใจว่า พวกเขาไม่ได้หวังที่จะปล่อยสินค้าออกไปให้พ้นๆ แผนรายได้นั้น ให้รางวัลแก่ผู้ที่ประสบความสำเร็จไหม และมีการลงโทษผู้ที่ไม่ได้ตามเป้าหรือเปล่า?
แผนการตลาดทั่วไป ซึ่งมักบรรยายถึงศักยภาพของรายได้ที่ดี แต่ ต้องศึกษาดูในปัจจัยอื่นๆด้วยว่า แผนนี้ทำไปใช้การได้จริงไหมและช่วยให้คุณอยู่รอดตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งยืดหยัดต่อไประยะยาวได้หรือไม่?
ปัจจัยสำคัญ 3 สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกบริษัทธุรกิจเครือข่าย
Timing หรือระยะเวลา บริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ใดๆก็ตามมักจะหักประมาณ35-40%จากราคาสินค้า ไว้สำหรับทุนสินค้าบริษัท ส่วนอีก60-65% จะแบ่งจ่ายให้ตัวแทนนักธุรกิจอิสระ เเละค่าใช้จ่ายเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจต่อไป
ถ้ามีการปันผลกำไรขั้นต้นในเปอร์เซ็นต์ที่มากเกินไป ก็จะมีข้อเสียคือคุณจะได้รับส่วนแบ่งน้อยลงเมื่อคุณสามารถพัฒนาองค์กรของคุณ จนกระทั้งคุณอยู่ในตำแหน่งที่ต้องรับผิดชอบสูง หรือ ตำแหน่งบริหาร
ในธุรกิจส่วนใหญ่นั้นเป็นธรรมดาย่อมมีการ เปลี่ยนแปลง ลาออก, การถดถอยขององค์กร และปัญหาการสอนงาน ทักษะการเรียนรู้(learning curve)
ดังนั้น ใน network Marketing หรือธุรกิจ ขายตรง ชื่อที่คนส่วนใหญ่มักรู้จัก ก็เช่นเดียวกัน รายได้ปันผลตอบแทน ไม่ควรเสนอใน อัตราที่สูงจนเกินไป เพื่อเย้ายวน สำหรับสมาชิกผู้เพิ่งเริ่มต้น ด้วยเหตุผลของ learning curve (ทักษะการเรียนรู้)
โครงสร้าง โครงสร้างผลตอบแทน โบนัส นั้น มีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ (stair step, metrix, binary และอื่นๆ ) ในที่นี่จะไม่ขอกล่าวถึงรายละเอียดปลีกย่อยของ โครงสร้างรูปแบบผลตอบแทน กล่าวโดยสรุปคือ โครงสร้างนั้นควรเป็นโครงสร้างที่ ชวนให้สมาชิกสามารถที่จะอยู่ได้นาน สามารถเป็นอิสระจากผู้ที่มาก่อนได้ สามารถโตด้วยตัวเองได้
รายได้เก็บเกี่ยว (Passive income) เมื่อถึงจุดหนึ่ง ที่คุณได้ใช้ความพยามความทุ่มเทในการสร้างและขยายองค์กรธุรกิจของคุณ ได้สำเร็จในระดับหนึ่ง (หมายถึง มีจำนวน สาขาธุรกิจของคุณมากเท่าใดที่คุณได้ช่วยสร้างขึ้นมาจากความช่วยเหลือของคุณเอง)
หมายความว่า คุณมีโอกาสที่จะได้รับรายได้จากระดับล่างสุดของสมาชิกธุรกิจไหม? รายได้หรือธุรกิจของคุณสามารถตกทอดเป็นมรดกให้แก่ลูกหลานของคุณได้เหมือนกับการประกอบธุรกิจอื่นๆหรือไม่? คุณสามารถเกษียรตัวเองจากกิจกรรมทางธุรกิจ แต่ยังคงได้รับผลตอบแทนจากความเหนื่อยยากจากการก่อร่างสร้างธุรกิจของคุณอยู่หรือไม่?
หรือแค่ฉาบฉวย ของกลุ่มคนบางกลุ่ม ที่สร้างกระแสให้แรงในช่วงต้น ๆ นำเอารายได้ที่สร้างขึ้นมาว่าได้มากแล้ว ในระยะเวลาสั้น ๆ แล้วกระตุ้นต่อมอยาก ความโลภของลูกค้า แล้วเดินจากไป
สิ่งที่น่าสังเกต>>>
ในธุรกิจเครือข่าย คำว่า “โอกาสสำหรับต้นสายธุรกิจ” (ground floor opportunity) นั้นปรกติหมายความถึง ผู้ที่ต้องการให้คุณเริ่มต้นธุรกิจอย่างรวดเร็ว เพื่อพวกเขาจะนำเงินของคุณไปเริ่มต้น ธุรกิจอื่นๆอีก อย่างนี้ ย่อมเสี่ยงต่อการทุ่มเท เกินกว่า 100%
คุณอาจเห็นโฆษณา แบบนี้ ว่า “นำทีมโดยนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จจาก บริษัท xxxx”?
ลองคิดกันง่ายๆ ถ้าพวกเขาประสบความสำเร็จจริงจากบริษัทก่อนๆ มีเหตุผลอะไร ทำไมต้องมาเริ่มต้นใหม่?
ดังนั้นคุณจำเป็นต้องทำการบ้าน ตั้งคำถามต่างๆ คิดถึงเกี่ยวกับ เป้าหมายและสิ่งที่คุณฝัน(ตั้งใจ) พูดคุยกับผู้ที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จ ไม่เฉพาะแต่คนเดิมคนเดียวเท่านั้น ….. หลังจากนั้น ทำการตัดสินใจ เดินหน้าด้วยความมุ่งมั่นต่อไป
และเมื่อใดคุณได้ทำการบ้านสอบถามปรึกษาพูดคุยและรับฟังคำแนะนำจากที่ปรึกษาของคุณ คุณต้องระลึกไว้ว่า
ไม่มีธุรกิจใดที่จะสำเร็จได้โดยไม่ทำอะไร? ทุกธุรกิจจำเป็นต้องทำงาน ด้วยความพยายาม รับผิดชอบ และปรับตัวในการเปลี่ยนแปลง แล้วอะไรล่ะ? เป็นผลตอบแทนที่คุณควรจะได้รับ จากสร้างและขยายธุรกิจสาขาใหม่ๆและผลกำไรใช่หรือไม่
และเหตุผลสำคัญอันหนึ่ง เมื่อคุณได้ตัดสินใจใน การผจญภัยครั้งนี้, ธุรกิจเครือข่าย, ที่จะสามารถช่วยให้คุณได้รับผลตามเป้าหมายอิสรภาพทางการเงินที่คุณหวังไว้ ซึ่ง การค้าแบบดั้งเดิมนั้นไม่สามารถช่วยให้คุณสำเร็จได้ เพราะอาจไม่เหมาะสมกับสถานภาพของคุณ
เพื่อที่จะประสบความสำเร็จในธุรกิจเครือข่ายนั้น คุณจะต้อง ตั้งสมมุติฐานที่แตกต่างจากธุรกิจการค้าขนาดเล็กอื่นๆ คุณต้องทำงานเป็นทีม จงเชื่อมั่นในตัวคุณเอง ขอคำปรึกษาจากเพื่อนร่วมธุรกิจ และมุ่งมั่นไปยัง เป้าหมายที่ต้องการ อย่างจดจ่อ แรงกล้า และต้องการจริงในเป้าหมายนั้น อนาคตภายภาคหน้าของคุณ. ด้วยการลงมือทำอย่าง ต่อเนื่อง ไม่คิดที่จะล้มเลิกหรือเลิกทำ และคิดเริ่มต้นใหม่อีกเมื่อเพื่อนมาแนะนำบริษัท ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ เพราะปัญหาหรือเงื่อนไข ของความสำเร็จ ยังไงก้เหมือนเดิม
บริษัท ไอลิ้งเกจ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
เรา.."ตอบ"โจทย์ด้านบนได้ทุก"คำถาม"
เรามีวิธีการให้ทุกท่าน สำเร็จได้โดยง่าย
แม้แต่บุคคลที่ไม่มีประสบการณ์...
ด้วยความปราถนาดี จาก...Success Teams
โฆษณาเพื่อนการท่องเที่ยว ได้เงินฟรี
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น